กว่าจะรู้ว่าเรา รักกัน
นิล หญิงสาวที่เคยรักคนๆหนึ่งอย่างหมดใจ เอ คนที่รักนิลสุดหัวใจแต่กลับมาบอกนิลในวันที่นิลไม่ได้รักเขาแล้ว น้ำ ชายหนุ่มที่นิลรักหมดใจตอนนี้ เรื่องราวของคนทั้งสามคนนี้จะเป็นเช่นไรกัน
ผู้เข้าชมรวม
1,058
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“วันนี้เขาไม่ส่งข้อความมาอีกแล้วนะ” ร่างบางรำพึงในใจพลางถอนหายใจเบาๆ “เมื่อคราวที่แล้วเขายังส่งข้อความมาเลยนี่นา.....ทำไมวันนี้ถึงไม่ยอมส่งมานะ” ร่างบางยังคงครุ่นคิดอยู่ในใจและยังคงถอนหายใจยาว
“......นิล.....เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงเพื่อนสนิทเธอถามเบาๆทำให้เธอหลุดจากภวังค์ ร่างบางมองเพื่อนสนิทตนที่กำลังมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง เธอยิ้มก่อนส่ายหัวช้าๆ
“เราไม่เป็นอะไรหรอกจ๊ะเม” เธอพูดพลางมองนาฬิกา “ได้เวลาเรียนแล้วไปที่ห้องกันเถอะ” พูดจบร่างบางก็สะพายกระเป๋าขึ้นพร้อมกับเดินเคียงข้างเพื่อนสนิทขึ้นห้องไป
ร่างบางหยิบมือถือขึ้นมาดูช้าๆ “ไม่เห็นมีอะไรเลย” เธอคิดก่อนกดปิดเสียงมือถือตัวเอง “จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ ถ้าเราส่งข้อความไปหาเขา......ถ้าเราส่งไป...มันจะดูแปลกๆหรือเปล่านะ” เธอคิดพลางมองมือถือตนแน่นิ่ง
ร่างบางถอนหายใจอีกครั้งก่อนมองไปที่หน้าห้อง “อาจารย์ยังไม่เข้า ไม่เป็นไรหรอกมั้ง” เธอคิดพลางลุกขึ้นเดินไปเปิดหน้าต่างห้อง
ร่างบางเท้าแขนลงบนขอบหน้าต่าง สายลมปะทะใบหน้าใสเบาๆ เวลาที่เธอครุ่นคิดเรื่องอะไรเธอมักมายืนแบบนี้ ปล่อยให้สายลมตีหน้าเธอเบาๆ มันทำให้เธอรู้สึกสดชื่นมากขึ้นเลยทีเดียว
ความรู้สึกเหมือนอะไรสั่นอยู่ในกระเป๋ากระโปรงทำให้เธอสะดุ้ง ร่างบางล้วงมือลงไปในกระเป๋าด้วยใจที่เต้นตึกตัก “เขาส่งข้อความมาแล้วหรือไงกัน” เธอคิดก่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู ใบหน้าใสสลดลงนิดหน่อยเมื่อไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นกับมือถือเธอ “เราคิดไปเองอีกแล้วหรือเนี่ย...” เธอคิดก่อนเก็บมือถือลงกระเป๋าอย่างเสียดาย
“จะว่าไป.....ถ้าเราส่งข้อความไปหาเขาเองมันจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ...” เธอคิดพลางมองเพื่อนต่างห้องของเธอที่เล่นบาสอยู่ เพื่อนคนนี้เป็นคนบอกเธอว่าจงพอใจในสิ่งที่ตนเป็นอยู่ อย่าคาดหวังอะไรมากนักกับชีวิตและความรัก
“ใช่แล้ว เราอย่าไปคาดหวังอะไรมากกับเขาเลย....กับเขาที่เราเผลอบอกรักไปแล้วถูกเขาปฏิเสธ แค่เราได้กลับมาเป็นเพื่อนกับเขาก็ดีมากแค่ไหนแล้ว แค่เขาไม่หมางเมินเราก็ดีถมแล้ว แค่ช่วงนี้เขาดูใจดีกับเรามากขึ้น แค่ช่วงนี้เราติดต่อกับเขามากขึ้นก็อย่าได้ใจไปเลย.......ได้แค่นี้ก็ดีจะตายไปอยู่แล้ว พอเถอะกับไอความคิดบ้าๆว่าเขาเลิกกับแฟนเขาแล้วจะมาสนใจเรา......เลิกเถอะ....ยังไงเขาก็ไม่สนใจเราหรอก” เธอคิดก่อนถอนใจเบาๆ
“นิล อาจารย์มาแล้วปิดหน้าต่างได้แล้ว” เสียงเพื่อนเธอตะโกนมาทำให้เธอจำใจปิดหน้าต่างเบาๆ
“โอ้ย..” เสียงร้องที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงอะไรสักอย่างตกลงที่พื้นทำให้เมหันไปมอง ร่างบางของเพื่อนสนิทเธอนั่งอยู่ที่พื้น ใบหน้าใสมุ่ยด้วยความเจ็บ เพราะโมโหแทนเพื่อนทำให้เมเดินเข้าไปหาร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้านิล ตัวการที่ชนนิลจนล้มไปกองกับพื้น
“นี่คุณเดินยะ......พี่เอ!” เสียงของเมทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่กับพื้นเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวกับกางเกงยีนสีซีด ผมซอยสีทองกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“พี่ขอโทษนะนิล เป็นอะไรหรือเปล่า เผอิญพี่กำลังเหม่ออยู่” ร่างสูงพูดพลางยื่นมือมาให้เธอจับ เธอมองมือนั้นอยู่ชั่วครู่ก่อนเอื้อมมือไปจับพร้อมกับฉุดตัวเองขึ้นยืน
“ขอบคุณนะคะพี่เอ” ร่างบางพูดพลางปัดกระโปรงเบาๆ “พี่เอมาทำอะไรที่โรงเรียนหรือคะ” เธอถาม “พี่มาหาอาจารย์น่ะ” เอตอบพลางยิ้มอย่างมีเสน่ห์ เสน่ห์ที่ทำให้เธอเคยหลงใหลเพ้อฝันถึงพี่เขา
พี่เอ....รุ่นพี่สาวตัวสูงของโรงเรียน เป็นสาวที่หน้าตาดี(หล่อ)ที่สุดในโรงเรียน การที่เขาชอบโปรยเสน่ห์ไปทั่วทำให้เขากลายเป็นที่ป๊อบในหมู่ของสาวๆรวมทั้งเธอด้วย
เธอเห็นพี่เอครั้งแรกคือตอนม.1 ในงานกีฬาสี รอยยิ้มที่เขาชอบยิ้มให้กับรุ่นน้องในโรงเรียนทำให้เธอต้องเหลียวไปมอง เพราะรอยยิ้มที่เขายิ้มให้เธอนั้นมันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน ตั้งแต่วันนั้นมาเธอก็เฝ้ามองพี่คนนี้มาตลอด จนเมื่อขึ้นม.2เธอก็ได้รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ชื่อเอ....ด้วยความใจกล้าของเธอ...เธอเข้าไปทักเขา ทำให้เขาและเธอรู้จักกัน การกระทำต่างๆที่เขาทำให้เธอ ทำให้เธอมีความสุข... ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าเขามองเธอเป็นแค่รุ่นน้องคนหนึ่ง แต่เธอก็ดีใจ...ที่ได้มีเขาอยู่ใกล้ๆ มีความสุขที่ๆได้เคียงข้างเขา มีเขาคอยดูแล
แต่ความคิดของเธอก็เปลี่ยนไป...เมื่อเธอได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง....ชายหนุ่มที่เป็นคนปกติธรรมดา เพื่อนของเธอเป็นคนแนะนำให้ซึ่งพอเธอเห็นเข้าเธอก็ตกใจ เพราะชายคนนี้เรียนพิเศษที่เดียวกับเธอ แต่เธอก็ไม่เคยสนใจอะไรเขาเลยสักนิด
ชายคนนี้ชื่อน้ำ น้ำเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาธรรมดา...ดีที่สูงและเก่งกีฬาเท่านั้น เป็นคนที่เธอไม่เคยคิดที่จะสนใจอะไรมากมายนัก แต่พอรู้จักกัน ได้ใกล้ชิด ได้รู้นิสัยกัน เวลาที่พบกันเพียงสองเดือนทำให้เธอหลงเสน่ห์อันหนึ่งของเขาไปโดยไม่รู้ตัว เสน่ห์ของน้ำคือนิสัยดี...การมองโลกในแง่ดีของเขาทำให้เขาดูเป็นคนที่อบอุ่นใจดี เมื่อได้เข้าใกล้ครั้งแรกก็ทำให้เธออยากใกล้ชิดเขาอีกครั้งหนึ่ง
การที่เธอหลงเสน่ห์ชายคนนี้ทำให้เธอลืมเอไปเสียสนิท ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่คนชื่อเอหลุดหายไปจากใจเธอจนกระทั่งวันจบการศึกษาของพี่เขา
“นิล....จะถึงวันจบการศึกษาของพี่เอแล้วนะ เธอเตรียมของขวัญให้พี่เขาหรือยัง” เมถามเมื่อเห็นเธอกำลังเก็บของเตรียมกลับบ้านอยู่
“หา.....ตายแล้ว ฉันลืมไปสนิทเลยล่ะ อีกกี่วันล่ะเม” เธอถามด้วยความตกใจ เมยิ้มจางๆ เธอรู้ดีว่าเพื่อนตัวดีของเธอนั้นตอนนี้หลงเสน่ห์ชายหนุ่มคนหนึ่งเข้าไปเต็มเปา ทำให้เพื่อนคนนี้ของเธอลืมพี่เอคนสำคัญไปเสียสนิท
“มะรืนจ๊ะ ยังพอเหลือเวลาเตรียมของอยู่นะ รีบๆเตรียมเข้าล่ะ เดี่ยวพี่เอจะเสียใจนะ” คำพูดของเมทำให้เธอตัดสินใจเตรียมของขวัญชิ้นสำคัญให้กับเอ...คนที่เธอเคยชอบ...คนที่ตอนนี้เป็นเพียงรุ่นพี่ของเธอเท่านั้น
“พี่เอ.....” เสียงเรียกเบาๆทำให้ร่างสูงในชุดนักเรียนม.ปลายที่กำลังถือประกาศนียบัตรอยู่หันไปมอง แล้วเขาก็เห็นร่างบางในชุดม.ต้นกำลังยืนหอบอยู่หน้าตน
“อ้าวนิล...พี่คิดว่านิลลืมพี่แล้วนะเนี่ย” เอแซวเบาๆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เธอยิ้มก่อนหัวเราะเบาๆ “หนูไม่มีทางลืมพี่เอได้หรอกค่ะ ขอให้พี่เอเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการให้ได้นะคะ หนูจะคอยเอาใจช่วยพี่เออยู่ที่โรงเรียน แล้วพี่เอก็ห้ามลืมหนูเด็ดขาดเลยนะ ต้องมาหาหนูที่โรงเรียนบ่อยๆด้วยล่ะไม่งั้นหนูโกรธตายเลย” เอยิ้มก่อนยื่นนิ้วก้อยมา
“พี่สัญญาต่อหน้าทุกคนตรงนี้ สัญญาต่อโรงเรียนแห่งนี้เลยล่ะ พี่ไม่มีทางลืมนิลแน่นอน แต่นิลก็ต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ลืมพี่นะ” เธอยิ้มก่อนยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับเขา “แน่นอนค่ะ หนูจะไม่ลืมพี่เอแน่นอน” พูดจบเธอก็ยื่นกล่องของขวัญให้เขา “ของขวัญก่อนลาจากค่ะ” เอรับจากมือเธอก่อนแกะออกช้าๆ ก่อนหยิบพวงกุญแจรูปหัวใจสีเงินออกมาจากกล่อง
“อะไรเนี่ย...” เขาพูดอย่างงงๆ “ลองเปิดดูสิคะ มันเป็นล็อกเก็ตค่ะ” สิ้นคำพูดของเธอเขาก็เปิดล็อกเก็ตออกมาช้าๆ ภายในบรรจุขวดแก้วใบจิ๋ว ซึ่งภายในขวดแก้วก็บรรจุตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เขียนว่านิลอีกชั้นหนึ่ง “ของชิ้นนี้จะเป็นสัญญาของหนูกับพี่เอ สัญญาว่าเราจะไม่ลืมกันค่ะ ถ้าหากใครคิดจะลืมกันล่ะก็ ขอให้ทิ้งของชิ้นนี้ไปนะคะ ของหนูก็มีแต่เขียนเป็นคำว่าเอค่ะ หนูทำตั้งนานนะคะ” เอยิ้มก่อนเก็บพวงกุญแจใส่กระเป๋า
ร่างสูงยื่นประกาศนียบัตรให้เธอถือ เธอรับมาอย่างงงๆก่อนที่จะต้องตกใจเมื่อจมูกคมคายของคนตรงหน้าแอบฉวยโอกาสกับแก้มเธอไปฟอดใหญ่ การกระทำที่ทำให้เธอหน้าแดงก่ำ ก่อนที่จะโวยวายลั่น “แทนคำขอบคุณไง” ร่างสูงพูดก่อนจะยิ้มกว้าง
นิลยิ้มจางๆเมื่อมองไปที่ข้อมือเขา สร้อยข้อมือมีจี้เป็นล็อกเก็ตรูปหัวใจ “เขาคงแกะออกมาจากพวงกุญแจที่เราให้” เธอคิด “นิลทานข้าวหรือยัง” ร่างสูงถาม “ยังเลยค่ะ หนูกับเมกำลังจะไปทานนี่แหละค่ะ” พูดจบก็หันไปมองเพื่อนรักตนซึ่งตอนนี้ไม่อยู่เสียแล้ว
“อ้าว...เมหายไปไหน...” เธอบ่นพึมพำ “งั้นพี่ขอไปทานข้าวเป็นเพื่อนนิลนะ แล้วเดี๋ยวพาพี่ดูโรงเรียนด้วย พี่อยากรู้ว่าโรงเรียนเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว” นิลยิ้มกว้างก่อนพูด “สบายค่ะ”
เสียงออดที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางที่เดินเคียงข้างร่างสูงหยุดเดิน “ออดเข้าเรียนดังแล้วค่ะพี่เอ หนูคงต้องไปเรียนแล้ว ถ้าพี่เออยู่ถึงเย็นหนูจะพาดูโรงเรียนต่อนะคะ” นิลพูด
“เดี๋ยวนิลเรียนชั้นไหนหรอ” เอถาม นิลทำหน้าครุ่นคิด “ชั้น 5 ค่ะ” “ขอพี่ขึ้นไปส่งนิลจะได้ไหม” คำพูดที่ทำให้เธอเลิกคิ้วอย่างงงๆ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูเกรงใจ แค่นี้หนูขึ้นไปเองได้ หนูไปนะคะ” พูดจบร่างบางก็หมุนตัวทำท่าจะเดินไป ร่างสูงก็คว้าข้อมือร่างบางทันที
“เดี๋ยวนิล” ร่างบางหันมามองอย่างงงๆ “มีอะไรหรือคะ” ร่างสูงทำท่าอึกอักก่อนพูด “ไม่มีอะไรหรอกนิลไปเรียนเถอะ” เธอทำหน้างงๆก่อนเริ่มเดินอีกครั้ง ร่างสูงทำท่าจะพูดอะไรอีกครั้ง....และเมื่อเห็นว่าร่างบางเริ่มไกลออกไปแล้วร่างสูงก็ตัดสินใจตะโกนออกไป
“พี่ชอบนิลนะ!!!” คำพูดของเขาทำให้ร่างบางหยุดเดิน เธอหันมามองร่างสูงอย่างตกใจ “พี่เอพูดอะไรหรือคะ ล้อหนูเล่นอยู่หรือ” เธอถามแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเขา ใบหน้าที่แดงก่ำ ใบหน้าที่บ่งบอกให้รู้ว่า...เขาไม่ได้ล้อเล่น
“พี่ไม่ได้ล้อเล่น...พี่ชอบนิล..ชอบมานานแล้ว ตั้งแต่ที่เห็นนิลเดินเข้ามาในโรงเรียนวันแรกเลยเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ใบหน้าใสดูเยาว์วัย....และยิ้มที่นิลยิ้มให้กับเพื่อนทำให้พี่ติดใจในตัวนิลไปโดยไม่รู้ตัว พี่รู้ว่านิลชื่ออะไรเรียนชั้นไหนห้องอะไรและผ่านตรงไหนบ้างเวลาไหน พี่พยายามทำตัวเองให้ผ่านแถวนั้นบ่อยๆ พยายามไปอยู่แถวๆที่นิลเรียนบ่อยๆ ถ้านิลสังเกตจริงๆนิลแทบจะเห็นพี่ตลอดเวลา” เอเล่าเบาๆ คำพูดของเขาทำให้เธอได้คิด...ใช่แล้วเธอเห็นเอตลอดเวลาแต่เธอคิดเสมอว่ามันคงเป็นเหตุบังเอิญ
“จนวันที่นิลเข้ามาทักพี่....พี่ดีใจมาก พี่พยายามทำดีกับนิลทุกอย่างที่จะทำได้ และพี่ก็คิดว่าการกระทำที่นิลทำแสดงให้เห็นว่านิลชอบพี่เหมือนกัน...” เอสบตากับนิลก่อนเอ่ยออกมาอีกครั้ง “พี่เข้าใจถูกใช่ไหมนิล....พี่ไม่ได้เข้าข้างตัวเองใช่ไหม....นิล....นิลก็ชอบพี่ใช่ไหม” ทั้งสองสบตากันแน่นิ่งก่อนที่นิลจะหลบสายตาของเขา การกระทำที่ทำให้ร่างสูงเย็นวาบเข้าสู่หัวใจ
“หนูขอโทษค่ะ...” ร่างบางพูดแผ่วเบา...ร่างสูงยืนค้างอยู่กับที่ “ถ้าพี่เอพูดกับหนูเร็วกว่านี้ พูดกับหนูเมื่อตอนที่หนูอยู่ม.2หนูคงจะดีใจและตอบรับพี่ด้วยคำว่าค่ะ หนูก็ชอบพี่เหมือนกัน แต่ตอนนี้...มันสายไปแล้วค่ะพี่เอ....ในใจของหนูตอนนี้มีแต่คนๆหนึ่ง ตอนนี้พี่เอเป็นเพียงพี่สาวที่ใจดีของหนูเท่านั้น”
“มะ...หมายความว่า......” ร่างสูงพูดอย่างแผ่วเบา “หนูรับรักพี่เอไม่ได้จริงๆค่ะ....ตอนนี้หนูไม่ได้ชอบผู้หญิงอีกแล้ว ตอนนี้หนูเปลี่ยนไปแล้วค่ะ....ขอโทษนะคะ” เธอพูดอย่างอ่อนแรง ทำไมถึงมาพูดตอนนี้ ถ้าชอบเรามานานแล้วทำไมไม่เอ่ยปากมาแต่แรก ถ้าพูดเร็วกว่านี้...เราอาจจะคบกับพี่เขาแล้วไม่รู้จักกับน้ำ...ไม่ทำให้ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้
“แล้วตอนนี้...นิลมีแฟนหรือยัง” ร่างสูงตัดสินใจถามด้วยใจอันรวดร้าว...มันสายเกินไปสำหรับเขาแล้วใช่ไหม...ร่างบางส่ายหน้า “แล้วนิลแอบชอบใครอยู่ใช่ไหม...” ร่างสูงถามอีกครั้งด้วยความหวัง “ค่ะ....” ร่างสูงยิ้มจางๆ “งั้นพี่จะรอ....พี่จะรอนิลนะ...” คำพูดที่ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมาทันที “พี่เอจะมารอหนูทำไมกันคะ” ร่างสูงยิ้มก่อนเดินเข้ามาใกล้ มือนุ่มหยิบมือบางขึ้นมากุมไว้ “พี่จะรอคอยวันที่นิลไม่เหลือใคร จะรอวันที่นิลปวดร้าวในหัวใจ พี่จะคอยซับน้ำตาให้ พี่จะคอยปลอบใจ พี่จะรอคอย...เผื่อว่าจะมีวันใดนิลหันมาสนใจคนๆนี้ คนที่ชอบนิล....หมดใจ....” คำพูดของร่างสูงทำให้น้ำตาเริ่มรื้นที่ขอบตาของเธอ
“พี่เอ....” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ร่างสูงรั้งร่างบางเข้าไปในอ้อมกอด “ขอโทษค่ะ...หนูรักพี่ไม่ได้จริงๆ หนูรักคนๆหนึ่งไปหมดหัวใจแล้ว ขอโทษค่ะ” ร่างสูงยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบาๆ “ไม่ต้องขอโทษอะไรพี่หรอกเด็กโง่...” ร่างสูงพูดก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยโดยไม่รู้ตัว.....
“นิล...หายไปไหนมาทั้งชั่วโมงเลย โทรหาเธอก็ไม่รับ ชั่วโมงเรียนก็ไม่เข้า ดีนะอาจารย์ไม่มาไม่งั้นเธอโดนเช็คขาดแน่....เฮ้..นิล เธอร้องไห้เหรอ” เมพูดเมื่อเห็นเธอนั่งอยู่หน้าห้องเรียน
“ขอโทษ...” เธอตอบด้วยนัยน์ตาเลื่อนลอย ทำไมพี่เอเพิ่งมาพูดตอนนี้...ทำไมถึงมาบอกในเวลาที่สายเกินไป...ทำไม
“นิล...เกิดอะไรขึ้น..ร้องไห้ทำไม” เมพูดพลางเขย่าตัวเธอเบาๆเพื่อให้สติกลับคืนมา “ไม่มีอะไรหรอก...เมอย่าคิดมากเลย...” เธอพูดพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาเบาๆ
“เกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับพี่เอหรือเปล่า บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะนิล เราเป็นเพื่อนกันนะ” เมเริ่มพูดเสียงดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนตนไม่ปริปากพูดอะไร เธอจึงหยิบกระเป๋าขึ้นมาและลากนิลไป
“เธอจะลากฉันมาที่นี่ทำไมหรอเม” นิลถามเมื่อเห็นว่าเมพาเธอมาห้องเก็บของๆโรงเรียน “เธอกับพี่เอมีเรื่องอะไรกันแน่ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่บอกล่ะก็เราสองคนจะไม่ได้เรียนคาบต่อไปแน่ๆเลยล่ะนิล บอกมาเลยนะ” เมพูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้เก่าๆตัวหนึ่ง
“ก็ไม่มีอะไรหรอก” เธอพูดอ้ำอึ้ง “นิล.....” เมลากเสียงยาวด้วยความไม่พอใจ นิลทำหน้าจ๋อยก่อนเอ่ยปากเล่าออกมาอย่างแผ่วเบา
“หา!!!” เมตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อฟังนิลเล่าจบ “อะไรกันนิล เธอมองพี่เขามาตลอด 2 ปีแต่พอมาตอนนี้เธอเพิ่งตัดใจจากเขาได้ เขากลับบอกว่าชอบเธอ ทำไมสวรรค์เล่นตลกกับเธอแบบนี้ล่ะ” เมพึมพำเบาๆ
“ฉันไม่รู้เม ฉันไม่รู้ฉันควรทำยังไงดี พี่เอบอกว่าจะรอฉัน.....แต่ตอนนี้.....ตอนนี้ฉันชอบน้ำ ฉันไม่ได้ชอบพี่เขา ฉันจะเอายังไงดีล่ะเม” นิลพูดอย่างอ่อนแรง
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางสะดุ้ง มือบางล้วงลงไปในกระเป๋าก่อนหยิบมือถือออกมา หน้าจอแสดงว่ามีข้อความเข้าใหม่ เธอกดเปิดอ่านด้วยมือสั่นเทา เธอรู้ดีว่าข้อความส่งมาจากใคร
ขอโทษนะที่วันนี้เราส่งมาซะบ่ายเลย เรียนอยู่เปล่าเนี่ย ขอโทษที่ส่งผลมารายงานผลบอลของโรงเรียนเราช้านะ ทีมเราชนะแหละ เราลงเล่นด้วยนะงวดนี้ ประตูชนะเราก็เป็นคนยิง เป็นไงเราเก่งใช่ไหมล่ะ เอาไว้ถ้าเราได้รางวัลชนะเลิศจะพาไปเลี้ยงไอติมกะไอพวกเติ้งนะ ^ ^
มือบางเก็บมือถือด้วยมืออันสั่นเทา ทุกครั้งที่โรงเรียนของน้ำคนที่เธอกำลังชอบอยู่ใน ตอนนี้มีการแข่งบอลเขาจะส่งข้อความมารายงานผลทุกครั้ง
“น้ำส่งมาใช่ไหม” เมพูด นิลพยักหน้าแผ่วเบา “เม.......ฉันสับสนไปหมดแล้ว ฉันควรทำอย่างไรดี ฉันควรเลือกใครระหว่างคนที่ฉันชอบและคนที่ชอบฉัน......เม” นิลพูด น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยโดยไม่รู้ตัว
“นิล...” เมครางออกมาเบาๆก่อนดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด มือบางลูบหลังร่างที่กำลังสั่นช้าๆ “นิล เรื่องแบบนี้มันต้องใช้ใจของเธอตัดสินเท่านั้นแหละ ระหว่างพี่เอคนที่เธอรู้ว่าเขาคิดยังไงกับเธอ คนที่เธอเคยรู้สึกดีๆด้วย กับน้ำ...คนที่เธอกำลังชอบเขาแต่ไม่รู้ว่าเขาชอบเธอหรือเปล่า ฉันไม่อยากตัดสินให้ว่าเธอจะเลือกใครนิล”
เมถอนใจยาวๆหนึ่งทีก่อนดันร่างบางออกจากอก ใบหน้าใสเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา “จงใช้ใจของเธอคิดว่าเธอจะเลือกใคร” เมพูดพลางยิ้มจางๆให้กับเธอ นิลมองหน้าเพื่อนรักก่อนโผเข้าสู่อ้อมกอดของเพื่อนเธอ “เม.....” “เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลานะนิล ค่อยๆคิดค่อยๆตัดสินใจ...” เมพูดพลางโอบกอดเพื่อนรักไว้....
หลายวันต่อมา “นิลกลับบ้านกัน” เมตะโกนเรียกเพื่อนที่กำลังเก็บกระเป๋าอยู่ “จ๊ะ” นิลตอบ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะออกจากห้อง ร่างของเพื่อนนิลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเธอ
“นิลเธอรู้จักผู้ชายคนนี้หรือเปล่า ฉันรู้สึกว่าหน้าตาเขาคุ้นๆนะ คิดว่าเธอน่าจะรู้จัก” คนๆนั้นพูดแผ่วเบาก่อนยื่นมือถือมาให้เธอ แต่ยังไม่ทันที่นิลจะดูมือของเมก็เข้าแย่งไว้ก่อน
ใบหน้าของเมซีดเผือดทันทีเมื่อทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าจอมือถือ นิลสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นทันที มือบางทำท่าจะคว้ามือถือมาจากเมแต่เมไวกว่าเธอหลบทันที
“ขอฉันลบภาพพวกนี้นะยีน” เมพูด เจ้าของมือถือที่ชื่อยีนพยักหน้าช้าๆ เมจึงจัดการลบภาพพวกนั้นอย่างรวดเร็ว “เม!” นิลตะโกนดังลั่นใบหน้าใสง้ำงอ แต่ยังไม่ทันที่นิลจะพูดอะไรเสียงมือถือเธอก็ดังขึ้น ร่างบางคาดโทษไว้ก่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู
เมมองเพื่อนตนพลางถอนใจยาว “อย่างน้อยนิลก็คงไม่ได้เห็นภาพพวกนี้” เธอคิดในใจก่อนที่จะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามือของนิลสั่นเทา “นิล...ดูอะไรอยู่หรอ” เมถาม ความรู้สึกในเธอบอกว่าต้องเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่....
“เม...ภาพเมื่อกี้ที่เธอเห็นคือภาพนี้ใช่ไหม” นิลพูดพลางหันมือถือมาให้เธอดู หน้ามือถือที่เปิดอยู่คือหน้าข้อความถาดเข้าที่มีภาพของชายหนุ่มที่นิลแอบชอบกำลังเดินจับมือกับหญิงสาวผมทอง นิลกดเลื่อนภาพไปอีกภาพหนึ่ง ภาพอีกภาพเป็นภาพที่เธอไม่อยากให้เพื่อนเธอเห็นมากที่สุด
ภาพของน้ำกำลังโอบกอดอยู่กับหญิงสาวผมทองคนเดิม
“.....นิล ใจเย็นๆนะ” เมพูด นิลมองหน้าเพื่อนของตน ร่างบางกำมือถือแน่นก่อนที่จะวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
“นิล!” เมตะโกนเรียก เธอกัดฟันก่อนหันมาทางยีน “ใครส่งภาพพวกนั้นให้นิล” เมตะโกนถามด้วยเสียงอันดัง แต่ไม่มีใครตอบคำถามเธอเลย
“ใคร?” เมถามอีกรอบ “ตอบมาเดี๋ยวนี้นะ เงียบกันทำไมล่ะ ตอบฉันมาเดี๋ยวนี้นะ” เมตะโกนด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม มือบางตบโต๊ะข้างตัวดังลั่นด้วยความโกรธ
“โวยวายอะไรกันเม เสียงดังลงไปถึงชั้นล่างเชียว” เสียงนุ่มๆที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้เมหันไป ร่างสูงของเอยืนมองเธออย่างงงๆ “พี่เอ มีอีบ้าที่ไหนไม่รู้ส่งภาพน้ำกอดกับผู้หญิงคนหนึ่งไปให้นิล” เมพูดอย่างโมโห
“น้ำ? ใครน่ะ อย่าบอกนะว่าคนที่นิลชอบอยู่ตอนนี้น่ะ” เอถาม เมพยักหน้า “แล้วตอนนี้นิลอยู่ไหน” เอถามอย่าร้อนรน “วิ่งลงไปข้างล่างแล้วค่ะ” เมตอบ เอเตะโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างตัวจนมันกระเด็นไปอีกฝั่งของห้อง “อย่าให้ฉันรู้นะว่าใคร ไม่งั้นเราเห็นดีกันแน่” เอพูดก่อนวิ่งลงไปข้างล่างทันที เมหันมามองด้วยสายตาเกรี้ยวกราดก่อนวิ่งตามเอลงไปทันที
ร่างบางนั่งมองมือถือในมืออย่างเลื่อนลอย มืออีกข้างวางอยู่บนตัก เอและเมยืนมองภาพตรงหน้าอย่างห่วงใย สักพักร่างบางก็เอามือถือไปแนบอก น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวย
“พี่ทนไม่ไหวแล้วนะ” เอพูดก่อนเดินไปหาร่างบางทันที มือใหญ่กว่าดึงมือถือออกมาจากมือบางทันที นิลเงยหน้าขึ้นมามองด้วยน้ำตา เอกดลบภาพทิ้งอย่างอารมณ์เสีย
“เลิกร้องไห้ให้คนแบบนี้ได้แล้วนิล พี่ทนไม่ไหวนะเวลาเห็นนิลร้องไห้น่ะ” เอพูดพลางยื่นมือถือคืนให้แก่นิล “แต่ว่า.....” นิลพึมพำเบาๆ ก็เธอชอบเขาหมดหัวใจไปแล้วนี่นา
“โอ้ย พี่เห็นนิลเป็นแบบนี้แล้วพี่ทนไม่ได้นะ” เอพูดอย่างหมดความอดทน ร่างสูงนั่งลงข้างร่างบาง “พี่เคยบอกนิลใช่ไหมว่าพี่จะรอคอยวันที่นิลปวดร้าวในหัวใจ รอคอยวันที่นิลไม่เหลือใคร พี่เคยบอกนิลแบนี้ไหม” ร่างสูงพูดแต่ร่างบางเลือกที่จะเงียบ
“พี่คิดเสมอว่าพี่ทำได้ พี่ต้องรอคอยนิลได้ พี่ต้องทนได้เมื่อเห็นนิลอยู่กับคนอื่น ต้องทนได้เมื่อเห็นนิลปวดร้าว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “แต่วันนี้พี่คิดว่าพี่คงทนรอไม่ได้อีกแล้ว ทุกครั้งที่พี่เห็นนิลเจ็บปวด ทุกครั้งที่พี่เห็นน้ำตาของนิล....” มือนุ่มเอื้อมไปเชยใบหน้าใสขึ้นและดึงให้หันมาทางตน มืออีกข้างเอื้อมไปซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา
“ทุกครั้ง....ที่นิลรู้สึกไม่สบายใจ ใจดวงนี้ของพี่มันแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำตาหนึ่งหยดของนิลมันทำให้น้ำตาของพี่นับล้านหยดเอ่อล้นออกมา ทุกครั้งที่นิลเจ็บพี่จะเจ็บกว่า พี่ทนไม่ได้ที่จะต้องมาเห็นคนที่พี่รักเป็นแบบนี้” หยดน้ำใสเริ่มเอ่อที่ขอบตาของร่างบาง ใจดวงน้อยที่แห้งแล้งของเธอเริ่มชุ่มชื่นเพราะคำพูดของเขา “พี่เอ....” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ในเมื่อนิลลืมเขาไม่ได้ ในเมื่อนิลยังคงรักเขา พี่จะเป็นคนทำให้นิลลืมเขาเอง พี่จะเป็นคนที่เข้าไปนั่งในใจนิลแทนเขาเอง พี่จะไม่ทำให้นิลเจ็บปวดเหมือนที่เขาทำ พี่จะคอยดูแลนิล คอยปกป้อง” เอพูดด้วยนัยน์ตาที่มุ่งมั่น “พี่เอ.....” ร่างบางพูดพร้อมกับทำนบน้ำตาที่พังทลายลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ร่างบางโผเข้าสู่อ้อมกอดคนตรงหน้าทันที
“ขอบคุณค่ะ” คำพูดที่ออกมาจากร่างบางทำให้ร่างสูงคลี่ยิ้มจางๆ แค่คำพูดนี้ก็เป็นกำลังใจที่จะช่วยให้เขาพยายามพิชิตใจของเธอ “เราต้องทำนิลลืมคนๆนั้นไปให้ได้” เขาคิดในใจอย่างมุ่งมั่นก่อนยกมือขึ้นโอบร่างบางไว้เต็มอ้อมแขน เมที่มองทั้งสองอยู่คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “ขอให้พี่เอสามารถทำลายกำแพงในใจของนิลที่มีแต่คนชื่อน้ำให้ได้นะคะ” เธอรำพึงในใจ
วันต่อมา
“นิล วันนี้พี่เอมารับใช่ไหมล่ะ” เมถามพลางเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า นิลเงยหน้ามองเพื่อนตนก่อนยักไหล่แบบไม่แน่ใจ “คงเป็นแบบนั้นแหละ” นิลพูด “ขอโทษด้วยนะที่วันนี้ไม่ได้กลับบ้านด้วยน่ะ” นิลพูดอย่างรู้สึกไม่ค่อยดีแต่เมกลับยิ้มกว้าง “คิดมากน่า เดี๋ยวฉันเดินไปหน้าโรงเรียนเป็นเพื่อน” เมพูดพลางจูงมือเพื่อนเดินออกนอกห้องไป
ร่างสูงยืนพิงรถของตนอยู่ มือบางยกนาฬิกาขึ้นมาดู “นิลจะรู้หรือเปล่าว่าเรารออยู่หน้าประตูโรงเรียนเนี่ย” เขาคิดในใจก่อนหันหลังไปล็อกประตูรถ
“พี่เอหนูพาเจ้าหญิงมาส่งแล้วค่ะ” เสียงใสๆที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้ร่างสูงหันไปมอง ร่างของเมยืนเคียงข้างอยู่กับนิล “หวัดดีค่ะพี่เอ” นิลทักเขาเบาๆ เอยิ้มก่อนหันไปหาเม “เม กลับบ้านด้วยกันไหม เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมส่ายหน้าพลางยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นไรค่ะ เมนัดพี่ชายไว้ที่ห้างจะไปซื้อของขวัญให้คุณแม่น่ะค่ะ” เมก้มลงมองนาฬิกา “หนูคงต้องไปแล้วล่ะค่ะ ฝากนิลด้วยนะคะ นิลพรุ่งนี้เจอกันนะ” เมพูดพลางยกมือขึ้นโบกสามล้อที่ผ่านมาพอดี “ระวังตัวด้วยนะ” นิลพูด เมพยักหน้าก่อนก้าวขึ้นรถไป
“นิล ไปกินไอติมกันไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” เอพูดพลางเปิดประตูรถ นิลมองเขาก่อนยิ้ม “ได้ค่ะ” นิลตอบก่อนก้าวขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีสายตาคู่หนึ่งมองทั้งสองอย่างไม่วางสายตา
เอยังคงวนเวียนมาที่โรงเรียนทุกวัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อรับนิลกลับบ้าน บางครั้งเมก็ติดรถไปด้วยเพราะทนคำรบเร้าของนิลไม่ไหว ซึ่งเอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นนิสัยของนิลอยู่แล้วที่เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนตนขนาดนี้
จากวันผ่านเป็นเดือน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนชื่อน้ำเริ่มจางหายไปจากใจเธอบ้างแล้ว แต่ถ้าหากวันไหนเธอเหงาขึ้นมา คนๆนี้ก็มักมีอิทธิพลกับเธอเสมอ พี่เอแนะนำให้เธอเปลี่ยนมือถือเธอก็ทำตามและไม่คิดที่จะโทรบอกเขา แต่ว่าช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยเหงาเท่าไรเพราะมีพี่เอคอยอยู่เคียงข้างเธอตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอกำลังเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เธอหยิบขึ้นมาดู “ข้อความเข้าสองข้อความ” เธอคิดในใจก่อนกดเปิดดู ข้อความแรกมาจากพี่เอ “วันนี้พี่ไปรับไม่ได้นะ ขอโทษด้วย พี่ติดงานจริงๆ” เธอยิ้มก่อนมองหาเมเพื่อชวนกลับแต่ก็เพิ่งฉุกคิดมาได้ว่าวันนี้เมกลับไปแล้ว “กลับเองก็ได้” เธอคิดก่อนเปิดดูข้อความอีกข้อความหนึ่ง เบอร์ที่ขึ้นดูคุ้นตาจนเธอแปลกใจ
“เปลี่ยนมือถือทำไมไม่บอกกันบ้างล่ะ”
เธอแทบทำมือถือหล่นจากมือ ข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เธอรู้ว่าคนที่ส่งมาคือใคร “น้ำรู้เบอร์ใหม่เราได้ไง” เธอคิดในใจ
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อมีมือบางตบลงบนโต๊ะเธอ เธอเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนที่จะเห็นว่าคนตรงหน้าคือผึ้งเพื่อนร่วมห้องของเธอคนหนึ่ง “มีอะไรหรือผึ้ง ตกใจหมดเลย” นิลพูด ผึ้งยิ้มที่มุมปากก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เธอจะจับปลาสองมือไปถึงไหน” นิลมองเธออย่างงงๆ “เธอพูดอะไรของเธอ” ผึ้งกระชากข้อมือของเธอขึ้นมา “เธอจะเลือกใครกันแน่” ผึ้งพูด นิลมองเธออย่างงงๆ “ช่วงนี้พี่เอมารับเธอทุกวันจนใครๆเขาลือกันไปหมดแล้วว่าเธอกับพี่เอเป็นแฟนกัน แต่วันนั้นฉันก็เห็นว่าเธอร้องไห้แทบเป็นแทบตายตอนที่เห็นภาพน้ำกอดกับสาวผมทอง เธอจะเลือกใครกันแน่” ผึ้งพูดด้วยเสียงดังลั่น คนในห้องเริ่มมองเธอสอง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของฉัน เธอเกี่ยวอะไรด้วย” นิลพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มโมโหบ้าง “ถ้าเธออยากให้คนอื่นมองเธอเป็นหญิงสองใจก็แล้วแต่เธอ” ผึ้งพูด “นั่นก็เรื่องของฉันเหมือนกัน เธอไม่ต้องมายุ่ง” ผึ้งเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงก่อนเอ่ยคำพูดที่ทำให้เธอต้องเบิกตากว้าง
“ฉันชอบพี่เอ! และฉันไม่ต้องการให้พี่เอมาคบกับคนที่ยังตัดสินใจว่าจะเลือกใครอย่างเธอ ฉันไม่อยากมองดูพี่เอเทคแคร์เธอแบบนี้ ฉันรับไม่ได้ และเพื่อนฉันก็ชอบน้ำ แต่เพื่อนฉันน่ะมันเป็นคนไม่ชอบตัดหน้าใคร พอมันเห็นว่าเธอชอบน้ำ มันก็เลยไม่ยอมไปยุ่งกับน้ำ ทั้งๆที่มันรักน้ำมากกว่าใครๆ”
ผึ้งปล่อยข้อมือเธอ “ฉันจะให้เวลาเธอ ถ้าวันจันทร์เธอยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ฉันรับประกันเลยว่า เธอจะเสียทั้งสองคนไปจากชีวิตเธอ” ผึ้งพูดไว้ก่อนที่จะเดินจากไป นิลนั่งนิ่ง “ถึงเวลาแล้วสินะที่เราจะต้องเลือกแล้วว่าระหว่างน้ำกับพี่เอเราจะอยู่เคียงข้างใคร” นิลคิดก่อนจะยกมือถือขึ้นกดเบอร์พี่เอ “พรุ่งนี้พี่เอว่างหรือเปล่าคะ นิลอยากจะชวนพี่เอไปเดินห้างน่ะค่ะ”
คืนนั้น ไฟในห้องของน้องสาวที่เปิดอยู่ทำให้นุ่น พี่สาวของนิลสงสัยจึงเดินขึ้นไปดู “นิลทำอะไรอยู่ ทำไมวันนี้นอนดึกจังเลย” นุ่นถามพลางเคาะประตูแผ่วเบา “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” นิลตอบ “พี่เข้าไปได้ไหม” นุ่นถาม “เชิญค่ะ” เสียงที่ตอบมาทำให้ร่างบางเดินเข้าไป
ร่างของน้องสาวเธอยืนอยู่หน้ากระจก บนเตียงเต็มไปด้วยเสื้อผ้า “ทำอะไรน่ะนิล” นุ่นถามอย่างงงงวย “คือ
.” นิลพูดอึกอักก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เธอจึงเดินไปนั่งข้างๆน้องสาว “พรุ่งนี้จะไปเดทกับหนุ่มที่ไหนหรอไง” คำพูดของพี่สาวทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก “หรือเป็นสาวหล่อที่มาส่งเธอทุกวัน หือ” ร่างบางถอนหายใจก่อนโยนเสื้อในมือทิ้งลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี
“เรียกเดทไม่ได้หรอกพี่นุ่น” นิลพูด “แล้วจะไปทำอะไร” นุ่นถามพลางมองนิลที่ทำตัวเหมือนจะไม่บอก “เผื่อพี่จะช่วยเลือกชุดได้ถูกไง” คำพูดของนุ่นทำให้นิลหันมามอง เธอถอนหายใจยาว “นิลจะไปเดินเที่ยวห้างน่ะค่ะ” นุ่นมองน้องสาวก่อนยิ้ม “กับใครหรือ” ร่างบางถอนหายใจยาว
“กับคนที่นิลรัก และคนที่รักนิลค่ะ นิลจะตัดสินใจว่านิลจะเลือกใครดี เพราะถ้านิลยังคงทำความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ มันก็จะไม่ได้ดีทั้งสองฝ่าย” นิลพูด นุ่นยิ้มก่อนโอบไหล่น้องสาวไว้ “พี่คงจะช่วยอะไรนิลไม่ได้มากหรอกนะ พี่คงพูดได้แค่ว่านิลทำตัวให้เป็นปกติที่สุด นิลจงเป็นนิล นิลอย่าไปเลียนแบบใครๆหรือนิลอย่าไปพยายามทำตัวให้คนนู้นคนนี้ชอบ เพราะถ้านิลทำแบบนั้น คนที่จะเสียใจภายหลังก็จะเป็นนิลเอง”
นิลหลุบตาลง “นิลจงเป็นนิลหรือคะ” เธอพึมพำ นุ่นพยักหน้า “เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้วนิล เอาล่ะ พี่ไปนอนดีกว่า เดี๋ยวนิลหาว่าพี่มากวนเวลาการเลือกชุดของนิลเอา” ร่างบางพูดก่อนปล่อยร่างน้องสาวออกจากอ้อมกอดแล้วเดินไปที่ประตูห้อง “ขอบคุณนะคะ” คำพูดของน้องสาวที่ดังมาทำให้ร่างบางยิ้ม “ทำให้น้องสาวแค่นี้ทำไมต้องขอบคุณกันด้วยล่ะ” พูดจบนุ่นก็เดินออกจากห้องไป
เช้าวันต่อมา ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แท็กซี่คันหนึ่งวิ่งมาจอดหน้าห้าง ประตูเปิดออกช้าๆ ร่างบางมุดตัวออกมาจากรถก่อนเดินเข้าไปในห้าง เธอมองหาคนที่เธอนัดไว้ เมื่อพบแล้วจึงเดินเข้าไปหาทันที
“ว่าไงเม” เสียงทักจากด้านหลังทำให้ร่างบางที่ยืนอยู่หันไปก่อนที่จะมองเพื่อนคนด้วยสีหน้าแปลกๆ “ทำไม” นิลถามก่อนก้มลงมองตัวเอง เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีครีมอ่อนขนาดพอเหมาะพอเจาะกับตัวยาวประมาณเอวเผยให้เห็นเข็มขัดสีดำเส้นขนาดกำลังดีคาดทับกางเกงยีนขาม้าสีเข้ม หัวเข็มขัดเป็นรูปทรงที่ดูประหลาดแต่ก็ดูดีอย่างน่าแปลกใจ รองเท้าผ้าใบสีขาวคาดสีฟ้าอ่อนดูเข้ากันดีกับชุดที่เธอใส่วันนี้
เมมองชุดเธออยู่แปบหนึ่งก่อนเงยขึ้นมามองผมเธอ ผมสีดำที่ปกติเธอมัดขึ้นตามกฎระเบียบของโรงเรียน วันนี้เธอถักเป็นเปียเดี่ยวยาวไปถึงกลางหลัง ผมด้านหน้าที่ตกลงมาเธอก็ติดขึ้นด้วยกิ๊บติดผมสีหวาน
“ฉันคิดว่าวันนี้เธอจะแต่งตัวหวานๆซะอีก อุตส่าห์นัดพี่เอออกมาทั้งที” เมเปิดปากพูดจนได้ นิลยิ้ม “พี่เอคงไม่ดีใจหรอกถ้าฉันแต่งตัวหวานๆเอาใจพี่เขา เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้วล่ะ” นิลพูด “ถูกต้องแล้วล่ะนิล พี่ชอบนิลตรงที่นิลสดใสและร่าเริง ถ้านิลแต่งตัวหวานๆมาพี่คงไม่ค่อยชอบ มันคงดูขัดกับบุคลิกของนิลน่าดู” เสียงนุ่มๆที่ดังข้างหลังทำให้ทั้งสองหันไปมอง
ร่างสูงวันนี้ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนสีเข้ม รองเท้าผ้าใบสีดำช่วยทำให้ร่างสูงเท่ห์มากกว่าเดิม ผมสีทองถูกปกปิดด้วยหมวกสีขาว “พี่เอ สวัสดีค่ะ” นิลและเมทักเขาพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่สดใส เอยิ้มก่อนถอดหมวกออกเผยให้เห็นผมสีทองสวย “สวัสดีครับสาวๆ”
“คนมาครบแล้ว จะไปไหนกันดีล่ะ” เมพูดแต่นิลกลับส่ายหน้า “ยังไม่ครบเม ยังขาดคนอีกคนหนึ่ง” เมและเอมองเธออย่างสงสัยก่อนที่เอจะเอ่ยปากถาม “ใคร?” นิลยิ้มให้เขาก่อนที่จะตอบอย่างหนักแน่นว่า “น้ำค่ะ” สิ้นคำพูดของเธอก็มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากข้างหลัง
“นิลหรือเปล่า” นิลหันไปมองก่อนจะเห็นร่างสูงกำลังยืนมองเธออยู่ “อ้าวน้ำ สวัสดีจ๊ะ” นิลทัก เมื่อวานเธอโทรไปชวนเขาก่อนจะโกหกเขาไปว่ามือถือหายพอซื้อใหม่เลยไม่มีเบอร์เขา น้ำมองไปที่สองคนที่ยังคงงงอยู่ว่านิลนัดน้ำออกมาทำไม “ใครน่ะ” เขาถามอย่างงงๆ นิลยิ้ม
“นี่เมเป็นเพื่อนสนิทของเราจ๊ะ แล้วก็พี่เอเป็น
..” นิลเงียบไป เธออธิบายให้เขาฟังไม่ออก จะบอกว่าพี่เอเป็นคนรู้ใจเราหรอ หรือว่าจะบอกว่าเป็นรุ่นพี่ดีล่ะ เอยิ้ม “สวัสดี พี่ชื่อเอเรียกพี่เอก็ได้ พี่เป็นรุ่นพี่ของนิลน่ะ” นิลเงยหน้าไปมองเอ สายตาของเธอบอกว่าขอบคุณ
“สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนของนิลชื่อน้ำฮะ” น้ำแนะนำตัว เมยิ้มให้เขาพอเป็นพิธี ก่อนหันไปหานิล “คนครบแล้ว เราไปกันเถอะ วันนี้เธอจะพาเราไปไหนกันน่ะ” นิลยิ้ม “ไม่รู้สิ เราชวนออกมาเดินห้างเฉยๆน่ะ ไม่ได้คิดไว้ก่อนว่าจะไปไหนกัน”
“เอาเป็นว่าเราเดินดูของกันก่อนเถอะเนอะ แล้วกลางวันค่อยไปหาอะไรทานกันเดี๋ยวเราเป็นเจ้ามือเอง” นิลพูดก่อนหันหลังทำท่าจะเดินนำคนอื่นไป “เดี๋ยวสินิล” เอเรียกเธอพลางจับข้อมือเธอไว้ด้วยความนุ่มนวล เธอหันมามองอย่างงงๆ “คะ?” เอยิ้มก่อนล้วงมือลงไปในกระเป๋า
“สุขสันต์วันเกิด” เอพูดก่อนยื่นของขวัญกล่องหนึ่งให้เธอ เธอมองเขาอย่างงงงวย “อ้า พี่เอแย่งเมอ่ะ เมกะว่าจะให้นิลคนแรกสักหน่อย” เมโวยวายก่อนยื่นของขวัญกล่องหนึ่งให้เธอ “สุขสันต์วันเกิดจ๊ะนิล” นิลรับของขวัญสองกล่องมา ในหัวกำลังคิดอย่างรวดเร็ว “วันนี้วันเกิดเรานี่หว่า” เธอคิดในใจก่อนเงยหน้าขึ้นไปมองทั้งสองคน “ขอบคุณค่ะ”
“แกะๆๆ” เมพูดพลางมองของขวัญของเออย่างใคร่รู้ นิลยิ้มก่อนแกะของขวัญในมืออย่างทะนุถนอม เอยิ้มด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อเล็กน้อย “มาแกะอะไรตรงนี้เล่า พี่เขินนะนิล” เอพูดพลางเกาหัวแก้เก้อ นิลมองอย่างฉงนเมื่อเห็นของขวัญที่เอให้ กล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดเท่าฝ่ามือ
เอเอื้อมมือไปเปิดกล่องในมือนิล เมื่อฝากล่องเปิดออก นิลก็ต้องมองของในกล่องตาค้างทันที เพราะของที่อยู่ในกล่องเป็นของที่เธออยากได้มานานแล้วแต่ด้วยราคาที่เธอสู้ไม่ไหวเธอเลยไม่สามารถซื้อได้ จี้เพชรรูปหัวใจ นิลยิ้มกว้าง
“ขอบคุณค่ะพี่เอ พี่เอน่ารักที่สุดในโลกเลย” นิลพูด เอเกาแก้มตัวเองเบาๆ ใบหน้าคมคายที่ขึ้นสีเรื่อมองกี่ทีๆก็ยังน่ารัก
“พี่ใส่ให้นะ” เอพูดพลางหยิบสร้อยออกมาจากกล่อง ร่างสูงเขยิบตัวไปอยู่ด้านหลังของเธอ มือบางสวมสร้อยให้กับเธอแผ่วเบา “แล้วน้ำไม่มีของขวัญให้นิลหรอจ๊ะ” เมถาม น้ำส่ายหน้า “ขอโทษนะนิล เราไม่รู้อะไรเลย” นิลยิ้มก่อนส่ายหน้า ยิ้มที่แม้กระทั่งน้ำยังมองออกว่าเป็นยิ้มที่ฝืนเต็มที่ “ไม่เป็นไรจ๊ะ”
แล้วนิลก็ก้มหน้าลง เมคิดว่าเธอคงก้มเพื่อให้เอใส่สร้อยถนัดขึ้น แต่เปล่าเลย
.. “เรา
.เคยคิดว่าน้ำน่าจะจำวันเกิดเราได้ เพราะน้ำเคยถามเราแล้ว เราคิดว่าน้ำจะจำได้ แต่เปล่าเลย น้ำจำไม่ได้ ทำไมใจดวงนี้จะต้องเจ็บด้วยล่ะนิล เธอมีพี่เออยู่แล้วนะ เข้มแข็งสินิล ถึงน้ำจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พี่เอ คนที่รักเธอเขาก็จำได้แถมยังรู้ว่าเธอต้องการอะไรด้วย
เข้มแข็งเข้าไว้”
ถึงแม้ใจจะพร่ำบอกตัวเองอย่างนั้น แต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตาม น้ำตาเริ่มรื้นออกมาที่ขอบตา แต่มันก็เหือดหายไปเมื่อเอโอบไหล่เธอพร้อมกับถ่ายทอดความอบอุ่นผ่านอ้อมแขนของเขา “เอาล่ะพี่ใส่เสร็จแล้ว เราไปเดินกันดีกว่านะ ตามมาล่ะเม” เอหันไปพูดกับเมก่อนที่จะหันมามองเธอ ร่างสูงก้มลงมาจนหน้าเกือบชิดเธอ
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าวันนี้เราคิดอะไรอยู่นิล แต่เข้มแข็งไว้นะ นิลตั้งใจแล้วว่านิลจะทำ นิลก็ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ อย่าล้มกลางทางล่ะ แต่ถ้าเหนื่อยพี่ก็จะเป็นเก้าอี้ให้นิลได้พักเองนะ เข้มแข็งไว้นะ” เอพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น น้ำตาเริ่มรื้นขอบตาเธออีกครั้ง เอกระชับอ้อมกอดที่เขาโอบอยู่
“อย่าร้องนะ อย่าร้อง ยิ้มสิ วันนี้วันเกิดเรานะ” เอพูด นิลพยักหน้าก่อนที่จะเอนหัวไปซบกับไหล่เออย่างต้องการที่พึ่ง แล้วทั้งสองก็เดินเคียงข้างกันไป เมมองทั้งสองก่อนที่จะหันไปมองน้ำ “ไปกันเถอะน้ำ” เมพูดพลางยิ้มกว้าง
“เอ
..กินอะไรกันดีนะ” นิลที่ร่าเริงอีกครั้งพูดพลางหันมามองเมและน้ำ “อยากกินอะไรกันหรอ” เธอถาม น้ำยิ้มๆแต่ไม่ตอบอะไร เมยิ้มเช่นกันแต่ชี้ไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง “เราอยากกินก๋วยเตี๋ยว” เมพูด นิลหันไปมองร้านนั้นก่อนที่เธอจะยืนแข็งเป็นหิน ภาพในอดีตแวบเข้ามาในหัวทันที
วันนั้นเธอมาเดินห้างกับนุ่น หลังจากหาร้านอยู่สักพักทั้งสองก็เลี้ยวเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวนี้ โต๊ะว่างตัวเดียวในร้านทำให้ทั้งสองเดินเข้าไปนั่ง ระหว่างที่เธอรอพี่สาวของเธอเลือกอาหารอยู่ เธอก็หันไปมองโต๊ะข้างๆก่อนที่เธอจะตกใจแทบสิ้นสติ
ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังป้อนก๋วยเตี๋ยวใส่ปากหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถ้าเป็นภาพการจู๋จี๋ธรรมดาเธอคงไม่ตกใจมากนัก แต่คนที่กำลังป้อนก๋วยเตี๋ยวอยู่กลับเป็นน้ำคนที่เธอแอบชอบอยู่นี่ล่ะสิ
“ไหนน้ำบอกว่ายังไม่มีแฟนไง” เธอคิดในใจก่อนกำมือแน่น ร่างบางลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาที่ขอบตา “พี่นุ่นหนูไม่หิวแล้วล่ะค่ะ พี่จะทานก็ทานไปนะคะ หนูขอตัวก่อน แล้วเจอกันหน้าห้างนะคะ” เธอพยายามพูดให้เสียงไม่สั่นแล้ววิ่งออกจากร้านนั้นทันที
ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปในร้านนั้นอีกเลย เธอไม่อยากกลับมาคิดถึงความทรงจำอันเลวร้ายนั้นอีก แต่ถ้าวันนี้เมอยากกินจริงๆเธอควรจะเข้าไปไหม
เอมองร่างของนิลที่ยืนข้างอยู่ด้วยความสงสัย “เม มาด้วยกันเป็นกลุ่มทั้งทีจะไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวทำไม เราไปกินพวกหมูกระทะหรือสุกี้ดีกว่า นิลก็คิดแบบนั้นใช่หรือเปล่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
นิลหันมามองร่างสูง นัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยคำว่าขอบคุณ น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาที่ขอบตาเพราะความตื้นตัน “พี่เอมักดีกับเราแบบนี้เสมอ” เธอคิดในใจก่อนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วหันมามองเม “ใช่แล้วเม ไปกินอย่างอื่นดีกว่า”
เอยิ้ม “พี่อยากกินสุกี้” “งั้นเราไปกินสุกี้กัน โอเคไหมน้ำ” นิลหันไปถามร่างสูงที่ยืนเงียบอยู่ น้ำเงยหน้าขึ้นมาก่อนยิ้ม “อืม” “งั้นเราไปกันเลย” เมพูดก่อนเดินนำหน้าทุกคนไป
ขณะที่กำลังจะเดินไปนั้นก็มีมือหนึ่งมาฉุดน้ำไว้ “น้ำหรือเปล่า” เสียงที่ดังขึ้นมาทำให้ทั้งกลุ่มหันไปมอง ร่างของหญิงสาวหน้าตาน่ารักกำลังฉุดข้อมือน้ำไว้ น้ำมองหญิงสาวคนนั้นด้วยใบหน้าตกใจเช่นเดียวกับนิล
“กิ๊ก
” นิลพึมพำเบาๆ เอมองนิลก่อนมองไปที่ร่างที่กำลังเกาะแขนน้ำอยู่ “ใช่น้ำจริงๆด้วย น้ำช่วยเราด้วยนะ เราถูกพวกโรคจิตเดินตามอยู่” กิ๊กพูด น้ำทำหน้าไม่ถูก นิลมองทั้งสองก่อนตัดสินใจพูด
“กิ๊ก
..แฟนเก่าน้ำใช่ไหมคะ” กิ๊กหันมามองเธอ “จ๊ะ ว่าไงน้ำ ให้เราไปด้วยนะ” กิ๊กตอบนิลก่อนหันไปหาน้ำอีกครั้ง “เอ่อ
” น้ำอึกอัก “ถ้าน้ำอยากให้เขาไปก็ได้นะ” นิลพูด น้ำมองเธอก่อนหันไปหากิ๊ก
“ไปด้วยกันสิกิ๊ก” น้ำเอ่ยพลางยิ้มกว้าง กิ๊กยิ้มก่อนกระโดดกอดคอน้ำ “น้ำน่ารักที่สุดเลย” ภาพที่ทำให้นิลหันหน้าหนีทันที เธอหันหลังหนีภาพนั้นก่อนหลับตาลง น้ำตาทำท่าจะไหลออกมาจากตาเธออีกครั้ง “ทำยังไงเธอก็ยังลืมน้ำไม่ได้” เธอคิด
น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากนัยน์ตาเธอโดยไม่รู้ตัว เอถอนหายใจ “ให้ตายเถอะ เราคิดว่านิลลืมน้ำไปแล้วนะเนี่ย” เอคิดในใจก่อนเดินไปโอบไหล่นิลไว้ “นี่ๆ ไปกันเถอะ พี่หิวแล้ว” เอพูด เมพยักหน้า เอจึงพานิลเดินไปด้วยกัน
“อย่าร้องไห้สินิล” เอพูด “ร้องไห้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกนะ” นิลยังคงนิ่งเงียบและเดินไปตามแรงที่เอพาเธอเดินไป “มันคงเป็นความผิดพี่เองแหละ พี่ขอโทษ” คำพูดของเอทำให้นิลเงยหน้าขึ้นมามองเขา ใบหน้าใสเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ร่างสูงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอแผ่วเบา
“พี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ยังทำให้นิลลืมน้ำไม่ได้ ถ้าพี่ทุ่มเทให้นิลมากกว่านี้ นิลก็น่าจะลืมเขาไปได้แล้ว
.” เอพูด “ไม่ใช่ความผิดของพี่เอสักหน่อย” นิลพูดแต่เอกลับส่ายหน้า “พี่ไม่สามารถทำให้คนที่พี่รักมีความสุขได้ พี่คงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะพูดคำว่าพี่ชอบนิล”
นิลส่ายหน้า “ใครว่าพี่เอทำให้หนูไม่มีความสุขล่ะ หนูมีความสุขจะตายตอนได้อยู่กับพี่เอน่ะ” นิลพูดพลางยกมือขึ้นโอบเอวเขาไว้ก่อนซบหัวลงบนไหล่เขา “อยู่ใกล้พี่เอทีไรหนูสบายใจทุกทีเลย”
“น้ำ กินนี้สิ อร่อยจังเลย” กิ๊กพูดพลางยื่นกุ้งไปที่ปากของน้ำราวกับจะป้อนเขา น้ำทำสีหน้ากระอักกระอ่วม “ไม่ต้องอายหรอกน่า อ้าม ~ ” กิ๊กพูด น้ำจึงอ้าปากกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
“นี่ก็อร่อยนะ” กิ๊กพูดพลางตักยื่นให้เขาอีก นิลหันหน้าหนีทั้งสอง “ทำไมมันถึงรู้สึกแย่อย่างนี้นะ” เธอคิดในใจก่อนตักอาหารเข้าปาก รสชาติของมันจืดสนิททั้งๆที่เธอจิ้มน้ำจิ้มเสียตั้งเยอะ “ไม่อร่อยเลย
.” เธอถอนใจ “รู้แบบนี้ไม่ชวนกิ๊กมาดีกว่า”
เสียงน้ำหกพร้อมกับเสียงร้องทำให้เธอหลุดจากภวังค์ ร่างของกิ๊กเปียกไปด้วยน้ำ ตรงหน้าเธอมีแก้วน้ำวางนอนอยู่ น้ำไหลจากโต๊ะลงเป็นทาง และน้ำกำลังเช็ดน้ำจากเสื้อกิ๊กอย่างร้อนรน สายตาของเขาดูตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้นน่ะ” เธอถาม “เมื่อกี้ฉันทำน้ำหกน่ะ” เมพูด “ขอโทษนะกิ๊ก”
กิ๊กส่ายหน้า “ไม่เป็นไรจ๊ะ น้ำไม่ต้องเช็ดแล้วช่างมันเถอะ” กิ๊กพูดแต่น้ำกลับส่ายหน้า “จะให้เราปล่อยเธอเปียกแบบนี้ได้ไงเล่า เดี๋ยวไม่สบายกันพอดี” น้ำพูด กิ๊กยิ้ม “เป็นห่วงหรอ” “ก็ใช่น่ะสิ เอ้ย! เธอให้เราพูดอะไรเนี่ย” น้ำพูด ใบหน้าของเขาแดงก่ำ
นิลวางตะเกียบลงบนโต๊ะโดยแรง “ยังไงน้ำก็ยังคงรักกิ๊กไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ทั้งสองจะเลิกกันแล้ว แต่น้ำก็ยังคงรัก
..” นิลคิดก่อนลุกขึ้นยืน “ขอโทษนะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” นิลพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ นัยน์ตาของเธอสั่นคลอน เธอฝืนยิ้มก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกจากโต๊ะไปทันที
‘ซ่า
’ นิลเปิดน้ำให้ไหลโดยไม่สนใจมัน น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากนัยน์ตาเธอ “กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องเสียใจให้ผู้ชายคนนี้ กี่ครั้งแล้วที่เธอจะต้องมองผู้ชายคนนี้อยู่กับผู้หญิงอื่น กี่ครั้งแล้วที่ผู้ชายคนนี้ไม่สนใจเธอ แล้วทำไมเธอยังรักเขา ทำไมเธอยังไม่ตัดใจจากเขาสักที ทำไมเธอยังไม่รู้จักจำอีก เจ็บมาตั้งขนาดนี้แล้ว
..” นิลคิดในใจอย่างเจ็บปวด
ร่างบางรู้สึกตัวเมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้ายื่นมาตรงหน้าเธอ เธอหันไปมองก่อนจะเห็นพี่เอกำลังมองเธออยู่ “พี่เอ
” เอถอนหายใจ “ถ้าไม่อยากให้เขามา แล้วเราจะชวนเขามาทำไมล่ะ” เอพูด “ปากไม่ตรงกับใจแบบนี้ ระวังจะแย่นะนิล” เขาพูดพลางเก็บผ้าเช็ดหน้าไปเมื่อเห็นนิลไม่รับ
“ทำให้คนอื่นเขาสบายใจแต่เรากลับแย่เสียเองนี่มันก็ไม่ดีนะ” เอพูดเสียงนุ่มก่อนใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้เธอแผ่วเบา “พี่เอ
” ความอบอุ่นที่เขาถ่ายทอดมาทำให้เขื่อนน้ำตาพังทลาย น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่สิ้นสุด ร่างบางถลาเข้าสู่อ้อมกอดร่างสูงทันที
เสียงสะอื้นของหญิงสาวคนที่เขารัก ทำให้หัวใจของเอแทบสลาย “เมื่อไรเราถึงจะเลิกร้องไห้ให้กับคนแบบนั้นเสียทีนะนิล
.” เอพึมพำแผ่วเบาราวกับพูดกับตัวเอง “ยิ่งเราเจ็บเท่าไร พี่เจ็บมากกว่าเราเป็นร้อยเท่านะนิล” เอคิดในใจก่อนลูบหัวร่างบางในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน
เวลาผ่านไปไม่นาน ร่างบางก็เงียบอยู่ในอ้อมกอดของเขา “ไหวไหม” นิลพยักหน้าพลางผละตัวออกจากอ้อมกอดเขา ร่างบางหันไปล้างหน้าก่อนหันกลับมาด้วยนัยน์ตาที่เศร้าหมอง “ยิ้มสิ” เอพูดพลางเอามือเกลี่ยแก้มนิลเบาๆ นิลฝืนยิ้มออกมา
เอถอนหายใจก่อนก้มลงไป จมูกคมคายแอบสูดกลิ่นหอมจากแก้มคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว “ยาวิเศษทำให้ยิ้มได้” เอพูดพลางยิ้มกว้างต่างกับใบหน้าใสที่ขึ้นสีเรื่อและคงจะแดงราวกับลูกตำลึงสุกในไม่ช้า “พี่เอ!” นิลโวยวายก่อนไล่ตีเขา
“โอ้ยพี่เจ็บนะ” เอพูดก่อนรวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยมือเดียว “กลับไปที่โต๊ะกันเดี๋ยวพวกนั้นจะสงสัย” เอพูด นิลทำปากขมุบขมิบใบหน้าใสมุ่ย “ยิ้มสิ” เอพูด ร่างบางค้อนให้เขาทีหนึ่งก่อนที่จะยิ้มกว้าง “พี่เอเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย” เธอพูดก่อนเดินเคียงข้างเขาออกจากห้องน้ำไป
“อะไรนะที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หรือจะเป็นฝ่ามือที่อบอุ่นของพี่เขาที่บอกเราว่ายิ้มเข้าไว้นะ
. บางทีการที่เราจะเลือกคนที่รักเราอาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้” นิลคิดก่อนกุมมือของเอแน่นขึ้น
“พี่คะเก็บเงินค่ะ” นิลตะโกนเรียกพนักงานในร้าน ขณะนี้ทั้ง 5 คนกำลังนั่งอิ่มแปล้กันอยู่ในร้านสุกี้ “อิ่มจังเลยเนอะ” เมพูดพลางวางตะเกียบลง “ก็เรากินไปตั้งขนาดนั้นคงไม่อิ่มล่ะนะ” เอแซว ขณะที่กำลังคุยกันอยู่พนักงานก็เอาใบเสร็จมาให้นิล
นิลเปิดกระเป๋าเงินออกมาดูก่อนที่จะตกใจแทบสิ้นสติ “เงินไม่พอ
.” นิลคิดในใจก่อนจะเกาหัว “ทำไงดีล่ะเนี่ย” เอมองเธอก่อนคลี่ยิ้มจางๆ “ที่นี่รับบัตรเครดิตหรือเปล่าฮะ” เขาถาม พนักงานคนนั้นพยักหน้า เอยิ้มก่อนยื่นบัตรเครดิตใบหนึ่งให้กับพนักงาน เธอรับไปก่อนที่จะเดินไปที่เคาต์เตอร์
“พี่เอ!” นิลโวยวายทันที “ทำไมทำแบบนี้” นิลทำหน้ามุ่ย “ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดละกัน” เอพูด “แต่พี่เอให้หนูแล้ว” เอยิ้มก่อนขยี้หัวคนข้างๆ “เราเงินไม่พอไม่ใช่หรือไง” นิลหน้าขึ้นสีเรื่อ “พี่เอนี่รู้ไปทุกเรื่องเลยนะ” นิลพูด และเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็ออกมาจากร้าน
“ไปร้องเพลงกันต่อดีกว่า” เมพูด “ก็ดีนะ คราวนี้เราเลี้ยงจริงๆนะ พี่เอห้ามแย่งหนูจ่ายด้วย” นิลพูด เอยิ้ม “จ๊ะ” เมมองทั้งคู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “งั้นขอเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เมพูดแล้วเลี้ยวเข้าห้องน้ำไปเช่นเดียวกับกิ๊กและน้ำ
“พี่เอ
” นิลเรียกร่างสูงที่หันหลังให้อยู่แผ่วเบา เขาหันมาทันที “มีอะไรหรือ” นิลยิ้ม “หนูรอเวลาที่จะอยู่กับพี่สองคนมานานแล้วนะคะ” เอขมุ่นคิ้วอย่างงงๆ “เราก็อยู่กับพี่สองคนตั้งหลายรอบแล้วนี่ เมื่อกี้ในห้องน้ำก็ใช่” เอพูด ร่างใสทำปากทู่แบบไม่พอใจ
“เมื่อกี้มันคนละอารมณ์กัน” เอยิ้มพลางขยี้หัวคนตรงหน้า “แล้วเรามีอะไรล่ะ” นิลยิ้ม “หนูมีเรื่องจะบอกพี่เอค่ะ” เอเอียงหัวเล็กน้อยอย่างสงสัย “อะไร” นิลเกาแก้มเบาๆ “จริงๆวันนี้หนูไม่ได้นัดทุกคนออกมาเพราะวันนี้เป็นวันเกิดหนูหรอกค่ะ หนูน่ะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดหนู”
เอถอนหายใจ “คนอะไรลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง แล้วเรานัดออกมาทำไมล่ะ” นิลหัวเราะแหะๆ “จริงๆวันนี้หนูนัดพี่เอกับน้ำออกมาเพื่อหนูจะได้ตัดสินใจเลือกสักทีว่าหนูจะเลือกใครกันแน่ หนูต้องการที่จะตัดสินใจว่าหนูจะเลือกคนที่หนูรักหรือคนที่รักหนู” นิลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูง
“แล้วเราเลือกใครล่ะ” เอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “พี่เอดีกับหนูมาตลอด พี่เอจำวันเกิดหนูได้ รู้ว่าหนูอยากได้อะไร คอยปกป้องหนู คอยดูแลหนู คอยปลอบใจหนู พี่เอดีกับหนูเสียจนหนูไม่รู้ว่าจะตอบแทนพี่เอยังไงดี
.” นิลพูด
“แล้วไงต่อ” เอพูด ดอกไม้แห่งความหวังกำลังเริ่มเบ่งบานในใจเขา “นี่คงจะเป็นข้อดีที่หนูหาไม่ได้จากคนที่หนูรัก มันคงเป็นสิ่งที่หนูจะได้รับจากคนที่รักหนูเท่านั้น และหนูก็พอใจกับสิ่งนี้ด้วย บางทีการที่อยู่กับคนที่รักหนูนานๆ หนูอาจจะรักเขาก็ได้” นิลพูดพลางยื่นมือไปจับมือเอมากุมไว้
“หนูเลือกคนที่รักหนูค่ะ หนูเลือกพี่เอค่ะ” เอยิ้มกว้าง เขารอคอยวันนี้มานาน เขาไม่คิดว่าวันนี้จะมีจริง “นิลพูดจริงใช่ไหม นิลไม่ได้โกหกใช่ไหม” เอพูดละล่ำละลัก นิลยิ้ม “ค่ะ เรื่องแบบนี้หนูไม่โกหกหรอกค่ะ” เอยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ร่างสูงดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด แต่ยังไม่ทันทีเขาจะได้โอบร่างตรงหน้าสมดังใจหวังก็มีร่างๆหนึ่งวิ่งเข้ามาขวางเขา
“ไม่ได้นะ” คนๆนั้นตะโกนลั่น “ทำไมล่ะน้ำ” นิลพูด “ถ้านิลเลือกคนที่รักนิลล่ะก็ เอก็ได้เปรียบล่ะสิ” น้ำพูด “ทำไมล่ะ” น้ำกัดฟัน “ก็เอได้คู่กับคนที่เอรักนี่นา แล้วนอกจากเอแล้วยังมีคนที่รักนิลอีก ถ้านิลไปเลือกเอมันก็ไม่ยุติธรรมกับคนๆนั้นน่ะสิ”
นิลมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “เธอจะมาทำให้ฉันเสียใจไปอีกเท่าไร น้ำ” เธอคิดในใจ “ใครล่ะ ใครที่รักเราอีกล่ะ” นิลตะโกนลั่น น้ำเม้มปากเป็นเส้นตรงก่อนที่จะตัดสินใจพูด “ก็เราไงล่ะ เรารักนิล” คำพูดของน้ำทำให้ทั้งสองตกใจแทบสิ้นสติ
“น้ำอย่ามาโกหกเรา
” นิลพูด “เราไม่ได้โกหก” น้ำพูดด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเรื่อ นิลมองน้ำทีมองเอทีหนึ่ง ร่างบางยกมือขึ้นปิดหน้า “ไม่จริง
..” เธอพูดพลางส่ายหน้าบนมือตัวเอง “นิล
” เอพึมพำ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะวิ่งออกจากตรงนั้นไปทันที
“นิล!” น้ำตะโกนลั่นก่อนทำท่าจะวิ่งตามไปแต่เขากลับถูกใครฉุดไว้ก่อน ร่างสูงหันไปทันทีพร้อมกับที่หมัดหนักๆซัดใส่หน้าเขา ร่างสูงล้มลงไปกองกับพื้น เขาเอามือเช็ดเลือดที่ปากก่อนหันมามองคนที่ต่อยเขา ร่างคนที่ต่อยเขากำลังมองเขาด้วยนัยน์ตาโกรธเกรี้ยว “ไอเวรเอ้ย
.” เอสบถพึมพำ
“ต่อยฉันทำไม” น้ำพูด “แกมีอะไรที่แสดงว่าแกรักนิลบ้าง” เอพูดพลางก้มลงไปกระชากคอเสื้อน้ำขึ้นมา “แกมีสิทธิ์อะไรที่จะมาพูดว่าแกรักนิล แกเคยแสดงออกมาไหมว่าแกรักนิล หา!” เอตะโกนลั่น น้ำเลือกที่จะเงียบและมองเขานิ่ง
“วันเกิดนิลแกก็จำไม่ได้ ของขวัญแกก็ไม่มี” เอตะโกน น้ำเหยียดยิ้มก่อนยกมือต่อยเอโดยแรง ร่างสูงล้มลงไปนั่งที่พื้น “ใครว่าฉันไม่รู้วันเกิดของนิล ใครว่าฉันไม่มีของขวัญให้นิล ฉันเตรียมของขวัญมาให้นิล แต่พอฉันเห็นนิลดีใจกับของขวัญของนายฉันก็รู้ว่าของขวัญของฉันมันอาจจะด้อยค่าเกินกว่าจะให้นิล ฉันจึงทำเป็นจำวันเกิดนิลไม่ได้”
“แล้วตอนที่นิลเปลี่ยนมือถือฉันก็ตามหาเบอร์นิลอยู่ตั้งนาน กว่าที่ฉันจะหาเบอร์นิลมาได้ แล้ววันนี้ฉันก็ลำบากใจจะตายตอนที่ฉันเห็นกิ๊ก ฉันไม่อยากให้นิลต้องมาเห็นฉันกับกิ๊กเพราะฉันกับกิ๊กเลิกกันแล้ว” น้ำพูดต่อ
“แล้วตอนที่นายห่วงกิ๊กแทบเป็นแทบตายนั้นล่ะ” เอพูด “ฉันจะห่วงกิ๊กในฐานะเพื่อนไม่ได้หรือไง” น้ำพูด “แล้วผู้หญิงผมทองคนนั้นล่ะ คนที่นายทั้งจูงมือทั้งโอบกอด” เอพูด “คนนั้นมันลูกพี่ลูกน้องฉันเขาเป็นคนอเมริกา การเดินจูงมือกันมันก็คือการแสดงความรักระหว่างฉันกับเขาในฐานะลูกพี่ลูกน้อง แล้วที่ฉันกอดเขาน่ะฉันกอดลาเขา เขากำลังจะกลับอเมริกา” น้ำตวาด “รู้เรื่องนี้กันด้วยหรอเนี่ย” เขาคิดในใจ
เอลุกขึ้นมายืนก่อนจะส่งหมัดหนักๆไปที่น้ำอีกรอบ “แล้วทำไมนายถึงพึ่งมาพูดเอาวันนี้ล่ะ” น้ำกระชากคอเสื้อเออย่างแรงด้วยความโมโห “แล้วนายจะให้ฉันพูดเมื่อไรล่ะ
เฮ้ย
.” น้ำตะโกนลั่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ตอนที่น้ำกระชากคอเสื้อของเอทำให้กระดุมเม็ดบนของเสื้อหลุดซึ่งเผยให้เห็นเนินอกขาวๆและสายเสื้อในสีหวาน
“เฮ้ย
.” เอตะโกนลั่นก่อนต่อยหน้าน้ำไปแรงๆอีกที ใบหน้าของทั้งสองแดงจัด “เห็นใช่ไหม” เอกัดฟันพูด “นาย
.ไม่ใช่สิ
.เธอเป็นผู้หญิงหรือเนี่ย” เอมองคนตรงหน้าอย่างโมโหจัด เอยกเท้าขึ้นก่อนทำท่าจะฟาดไปเต็มแรง
“พี่เอ!” เสียงตะโกนที่ดังมาทำให้เอหันไปมอง ร่างของเมวิ่งมาหาเขา “เกิดอะไรขึ้นคะ” เอเสยผมอย่างหงุดหงิด “ก็ไอนี่น่ะสิ อยู่ดีๆก็มาบอกว่ารักนิล” คำพูดของเอทำให้เมเบิกตากว้าง “ทำไมทุกคนต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ” น้ำพูด
เอถอนใจก่อนย่อตัวลงมากระชากคอเสื้อน้ำ “ก็ไอคนที่นิลรักมันคือนายน่ะสิ” คำพูดของเอทำให้น้ำเบิกตากว้าง “อะไรนะ!” เอถอนหายใจ “เมกับน้ำช่วยกันหานิลในห้างนะ เดี๋ยวพี่จะไปหานิลข้างนอก พี่ขับรถมา” เอพูด เมพยักหน้าหงึกๆทำให้เอวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที
“โธ่เว้ย!” เอสบถพลางทุบพวงมาลัย “นิลอยู่ไหนเนี่ย
” เขาคิดพลางเปลี่ยนเสื้อที่ถูกน้ำกระชากขาดอย่างรวดเร็ว “นี่เราก็ขับรถตามเธอมากว่าชั่วโมงแล้วนะ หายไปไหนเนี่ย
” ร่างสูงซบหน้าลงไปบนพวงมาลัย ในหัวกำลังคิดถึงคนที่เขารัก
. บทสนทนาที่เขาเคยคุยกับนิลแวบเข้ามาในหัว
“เวลานิลไม่สบายใจทีไรนิลชอบไปที่นั่นทุกทีเลยค่ะ” ร่างบางพูดขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ในรถ “ตรงนั้น?” เขาถามอย่างงงๆ นิลยิ้มและชี้ไปที่สวนๆหนึ่งที่เขากำลังจะขับผ่านมันไป “สวนแห่งนี้แหละค่ะ มันทำให้นิลรู้สึกดีทุกครั้งที่นิลไปนั่งสูดอากาศในสวนนั้น” ร่างบางพูด
เขาหันไปมอง สวนนี้ไม่ใหญ่ไม่เล็กมากแต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด “มองสวนนี้แล้วรู้สึกดีจังเลยเนอะ” เขาพูด นิลยิ้ม “ค่ะ” เอมองร่างบางก็ยิ้มน้อยๆ ร่างสูงเลี้ยวรถเข้าไปในสวนและจอดข้างทาง
“ไปเดินเล่นกันเถอะ”พูดจบทั้งสองก็ลงจากรถไปเดินเล่น “ทำไมสวนนี้ถึงให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้ล่ะ” เอพูด “สวนตรงนี้เคยเป็นที่เก่าของคุณแม่นิลมาก่อนค่ะ” นิลพูด คำพูดที่ทำให้เอหันมามอง “คุณแม่สละที่ดินแห่งนี้ให้สร้างสวนเพื่อให้ทุกๆคนได้พักผ่อนก่อนที่ท่านจะจากไปด้วยโรคร้ายแรง” นิลพูดพลางทอดสายตาไปยาวไกล
“ทุกครั้งที่หนูมาที่สวนนี้ หนูจะมีความสุขค่ะ มันเหมือนได้มาหาคุณแม่ยังไงก็ไม่รู้สิคะ” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
.
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาจากพวงมาลัย “นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งรำลึกถึงเหตุการณ์เก่าๆแบบนี้ ทำไมเราไม่ฉุกคิกถึงสวนแห่งนั้นเลยล่ะ” เขาคิดในใจก่อนบึ่งรถไปทันที
ร่างสูงจอดรถข้างทางเมื่อมองเห็นคนที่เขามองหามานาน มือบางหยิบมือถือขึ้นมา “พี่เจอนิลแล้วนะเม ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมาก พรุ่งนี้เรื่องทุกอย่างจะเรียบร้อยดี” เอพูดก่อนกดวางโทรศัพท์ ร่างสูงลงจากรถและเดินไปทันที
ร่างบางที่นั่งเหม่อมองท้องฟ้าอยู่สะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงเสียงเก้าอี้ขยับเพราะมีคนมานั่งข้างๆ เธอหันไปมอง “พี่เอ
.” เอหันมามองเธอแล้วยิ้มๆ “เรานี่นะวิ่งออกมาเฉยเลย พี่ตกอกตกใจหมด” เอพูด “พี่เอรู้ได้ไงคะว่าหนูอยู่ที่นี่” เอยิ้ม “ก็ใครเคยบอกพี่ล่ะว่าเวลาไม่สบายใจจะมาอยู่สวนนี้บ่อยๆ”
“พี่เอจำได้ด้วยหรือคะ” นิลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่ว่ายังไงเขาก็ดีกับเขามาตลอด “นิล
.ดีแล้วนะ ในเมื่อนิลรักเขาแล้วเขาก็รักนิล พี่ยินดีด้วยนะ” เอพูด เขาพยายามยังคับไม่ให้เสียงสั่นเวลาพูดกับเธอ นิลส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่ค่ะ หนูจะไม่ทิ้งพี่เอไปหาเขา
” นิลพูด “ทำไม” เอถามกลับ “ถึงหนูจะรักเขามากแค่ไหนแต่เรื่องแบบนี้
.พี่เอน่าสงสารเกินไป หนูออกปากแล้วว่าจะเลือกพี่เอ แล้วพี่เอจะให้หนูทิ้งพี่เอไปหาเขาได้ยังไงกัน” นิลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เอรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด
“พี่ยอมรับกับนิลเลยนะว่าพี่อยากได้นิลมาอยู่ข้างๆกาย ก่อนหน้านี้พี่ยอมรับว่าพี่คาดหวังว่าพี่จะได้นิลมาทั้งตัวและหัวใจ แต่วันนี้พี่มั่นใจเลยว่าถึงแม้นิลจะมาอยู่ข้างกายพี่ แต่ใจของนิลก็อยู่กับเขาคนนั้น พี่อยากได้นิลมาอยู่ข้างกายก็จริง แต่พี่อยากได้ทั้งตัวและหัวใจ พี่จะเอานิลมาทำไมในเมื่อใจนิลก็ไม่ได้อยู่กับพี่”
“แต่ว่า
” นิลพูด “พี่อยากให้คนที่พี่รักมีความสุข ถ้าพี่รู้ว่าพี่เอานิลมาแล้วนิลไม่มีความสุข พี่
.พี่ไม่มีวันให้นิลมาอยู่ข้างกายพี่ พี่ยินดีมองนิลอยู่ไกลๆ คอยดูแลนิลอยู่เงียบๆ ยิ้มเมื่อนิลมีความสุข ยินดีไปกับนิล ทุกข์เมื่อนิลทุกข์และร้องไห้ร่วมกับนิลในวันที่นิลเศร้า พี่ยินดีแบบนั้นมากกว่า” เอพูด ตอนนี้น้ำเสียงของเขาเริ่มสั่นเครือเสียแล้ว
“กลับไปหาเขาเถอะนิล เขารักนิลมาก นิลก็รักเขามาก แต่พี่ก็รักนิลมากเช่นกันดังนั้นพี่ยินดีให้นิลไปหาเขา พี่ยินดีเมื่อนิลจะมีความสุข” “พี่เอ
.” นิลพึมพำ ทำนบน้ำตาพังลงมาอย่างห้ามไม่ได้ “หนูจะไม่ไปหาเขา
” นิลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จะให้เราทิ้งพี่เอไปได้ไง
“นิลอยากให้พี่มีความสุขหรือเปล่า” เอพูด “อยากค่ะ
” เอปล่อยให้น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากนัยน์ตา “งั้นนิลก็ไปหาเขา นิลจงกลับไปหาเขา นั่นเป็นทางที่ทำให้พี่มีความสุขที่สุดแล้ว
.” เอพูด “แต่
.” นิลพยายามที่จะขัด “นิลไม่เข้าใจพี่หรือ
.” คำพูดเดียวของเขาหยุดทุกคำพูดของนิลไว้หมด
“เข้าใจค่ะ
.” นิลพูด “มีความสุขมากๆนะ” เอพูดพลางผละตัวออกจากเธอ ริมฝีปากสวยของเขาสัมผัสแก้มของเธอเบาๆอย่างนุ่มนวล “แทนคำอำลา
..ต่อจากวันนี้เป็นต้นไปเราก็คือรุ่นพี่รุ่นน้องกันนะ” เอพูด นิลมองเออย่างสะเทือนใจ มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เขาอย่างแผ่วเบา เวลานี้ไม่มีคำใดที่เธออยากจะเอ่ยนอกจากคำๆนี้อีกแล้ว
“ขอบคุณนะคะพี่เอ
” พูดจบร่างบางก็เขย่งตัวไปหอมแก้มเขาเบาๆ เอเอามือลูบแก้มตน “ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เอง” เอพูดพลางยิ้ม ยิ้มที่มองออกว่าไม่ใช่ฝืนแต่เป็นยิ้มที่จริงใจ นิลยิ้มให้เขาเช่นกัน “ไปส่งหนูที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ” เอพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปที่รถ
วันต่อมา
“นิล เราเมเอง” เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงพูดทำให้นิลที่นอนเล่นอยู่บนเตียงเดินไปเปิดประตูให้ “เรียกเรามามีอะไรหรือ” เมถามอย่างงงๆพลางนั่งลงบนเก้าอี้ “สอนเราทำคุกกี้หน่อยสิ” คำพูดของนิลทำให้เมมองอย่างงงกว่าเดิม
“เธอจะทำไปทำไม” เมถาม “ฉันจะเอาไปให้น้ำกับพี่เอ” คำพูดของนิลทำให้เมยิ้ม “เพื่อนเราคงเคลียร์กับพี่เอเรียบร้อยแล้ว” เธอคิดในใจ “เอาสิ”
วันต่อมา
นิลหยิบคุ้กกี้ออกมาถุงหนึ่งเมื่อมองเห็นคนที่เธออยากเจอเดินเข้ามาในโรงเรียน คุกกี้ถุงนี้เธอใช้เวลาทำเมื่อวานทั้งวัน กว่าจะได้คุกกี้ที่พอใจเล่นเธอกับเมซะเหนื่อย
“พี่เอ!” เสียงเรียกที่ไม่เบานักทำให้เขาหันไปมอง นิลเดินมาหาเอก่อนยื่นคุกกี้ให้เขา “อะไรน่ะ” เอถามอย่างงงๆ “หนูให้ค่ะ แทนคำขอบคุณทั้งหลายทั้งปวง หนูทำเองกับมือเลยนะเนี่ย” นิลพูด เอรับมาพลางยิ้มกว้าง “พี่กินเข้าไปแล้วจะท้องเสียหรือเปล่า” นิลทำหน้ามุ่ย “พี่เออ้า!” เธอโวยวายก่อนวิ่งไล่เออย่างบ้าคลั่ง
หลังจากที่วิ่งไล่กันจนเหนื่อย ทั้งคู่ก็ลงมานั่งข้างๆเมที่อ่านหนังสืออยู่ ร่างสูงแกะคุกกี้ออกมาทานทันทีที่นั่งถึงพื้น “ไม่กลัวท้องเสียหรือพี่เอ” นิลพูดอย่างงอนๆ เอหัวเราะเบาๆ “กลัวพี่คงไม่กินแหละ” เอพูดก่อนมองไปเห็นถุงใส่คุกกี้สีชมพูหวานอีกถุงหนึ่ง
“จะเอาไปให้ใครน่ะ” เอถามพลางเคี้ยวคุกกี้ตุ้ยๆ นิลยิ้มเขินๆ “ให้น้ำน่ะค่ะ” เอพยักหน้าก่อนตีมือเมที่พยายามจะหยิบคุกกี้ไปจากถุงในมือเขา “ของพี่เมห้ามยุ่ง” เมทำหน้ามุ่ย “หวงจังเลย
.” เมบ่นพึมพำก่อนหันไปอ่านหนังสือที่ค้างอยู่ต่อ
“วันนี้ไอน้ำมันเป็นอะไรของมันวะ” เสียงชายหนุ่มที่ดังขึ้นมาทำให้นิลที่ยืนพิงประตูอยู่หันไปมอง ผู้ชายกลุ่มใหญ่กำลังเดินออกมาจากโรงเรียน “เห็นมันกำแหวนวงนั้นอยู่นั้นแหละ” ผู้ชายอีกคนพูด “เรียกกลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ เป็นอะไรของมัน”
นิลเพ่งมองผู้ชายกลุ่มนั้นที่กำลังเดินผ่านเธอไป เธอแน่ใจว่าคนกลุ่มนี้ต้องรู้จักน้ำ และเธอก็มองเห็นคนที่เธอกำลังหาจริงๆ “เติ้ง!” เธอเรียกเสียงดังเพื่อกลบเสียงที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ เติ้งคือคนที่แนะนำให้เธอได้รู้จักกับน้ำ ผู้ชายกลุ่มนั้นหันมามองเธอทันที และผู้ชายที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มก็ทักเธอ
“อ้าวนิล มาทำอะไรที่นี่” คนๆนั้นถามงงๆ “คือฉันมาหาน้ำน่ะ” นิลพูด คนๆนั้นยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “พาฉันไปหาเขาหน่อยนะเติ้ง” นิลพูดแกมขอร้อง เติ้งมองเธออยู่สักพักก่อนพยักหน้าแล้วหันไปข้างหลัง “พวกนายไปรอฉันที่ร้านเกมละกัน เดี๋ยวฉันตามไป” แล้วคนพวกนั้นก็เดินไป
ทั้งคู่เดินเข้ามาในโรงเรียนด้วยกัน “น้ำเป็นอะไรไปหรอ” นิลถามอย่างเป็นห่วง “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนเช้ามันเดินเข้ามาหน้าตามันอย่างกับคนอดนอน สักพักก็ฟุบไปกับโต๊ะไม่พูดไม่จา เรียกมันมันก็ไม่หัน คุยกับมันมันก็ไม่คุย พอดูดีๆจึงเห็นว่ามือมันกำแหวนเงินวงหนึ่งอยู่ แหวนอะไรก็ไม่รู้”
นิลฟังที่เติ้งเล่าแล้วพยักหน้า “แล้วเธอมาหามันทำไมหรอ” เขาถาม “เรา
.เรามาทำให้น้ำกลับเป็นเหมือนเดิมน่ะ ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่เราจะพยายาม” คำพูดของนิลทำให้เติ้งมองอย่างงงๆ “เธอรู้สาเหตุที่เจ้านั่นเป็นแบบนั้นหรอ” นิลพยักหน้า “ทำไม”
“เอาไว้ฉันจะโทรไปบอกละกันนะเติ้ง ห้องนี้ใช่หรือเปล่า” นิลพูดพลางชี้ไปที่ห้องๆหนึ่ง เติ้งพยักหน้า “ขอบใจนะ” นิลพูดพลางเดินไปจับลูกบิดประตู “คืนนี้โทรมาหาฉันด้วย” เติ้งพูด นิลพยักหน้าก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้อง
ร่างสูงนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ ลมที่พัดเข้ามาในห้องเบาๆทำให้บรรยากาศในห้องดูเงียบเหงา “ฉันบอกแล้วไงเติ้งว่าฉันขออยู่คนเดียว” น้ำพูด เสียงของเขาดูอ่อนแรงเหลือเกิน นิลเดินไปใกล้ๆและนั่งลงบนโต๊ะด้านหน้าเขา เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย
“ก็บอกแล้วไง
..” เสียงของเขาหายไปทันทีเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ตรงหน้า “นิล” เขาพึมพำเบาๆ “อือ ฉันเอง” เธอพูดพลางยิ้มจางๆ “ขอโทษที่เมื่อวันก่อนวิ่งหนีออกมาไม่บอกไม่กล่าวนะ” นิลพูด “อือ
เราไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย เธอจะมาขอโทษเราทำไม” น้ำพูด
นิลก้มลงไปแล้วหยิบถุงคุกกี้ออกมาจากกระเป๋า “ฉันให้” นิลพูดพลางยิ้มกว้าง “ให้เราทำไม เนื่องในโอกาสอะไร” น้ำถามอย่างงงๆแต่ในใจเขากลับเต้นระรัวเมื่อรู้ว่านิลให้ของเขา “ก็วันนี้เป็นวันแห่งความรักนี่นาน้ำ” นิลพูด
“หา
.แต่นี่มันเดือนสิงหาคมนะนิล ไม่ใช่เดือนกุมภาพันธ์” น้ำพูด นิลพยักหน้า “ก็วันนี้เป็นวันแห่งความรักของเราสองคนไง เป็นวันที่เราสองคนจะเริ่มความสัมพันธ์ในฐานะคนรัก
” คำพูดของนิลทำให้น้ำงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเข้าใจ
“ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันแห่งความรักไง” นิลพูด น้ำยิ้มจางๆ มือหนาเอื้อมไปหยิบถุงคุกกี้มา ก่อนที่มืออีกข้างจะยื่นมาตรงหน้าเธอ เขาแบมือออกเผยให้เห็นแหวนเงินประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กๆบนมือเขา
“สุขสันต์วันเกิด เมื่อวันก่อนฉันไม่ได้ให้เพราะเห็นว่าเธอมีของขวัญที่มีค่าที่เอให้เธอแล้ว
.” นิลรับมาพลางยิ้มกว้าง “ตาบ้า
ขอให้เป็นของขวัญที่ได้จากนาย เราก็ดีใจแล้ว” นิลพูด น้ำเกาแก้มเบาๆ “เรารักนิลนะ
” น้ำพูดเบาๆ “เหมือนกัน” นิลพูดเบาๆ “เธอพูดอะไรนะ” น้ำถาม “เราก็รักนาย
.น้ำ” น้ำยิ้มกว้าง “เราคบกันนะนิล” นิลยิ้มอายๆ “อือ”
“ถ้ารักแล้วอย่ากลัวที่จะรัก ความรักมันไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย ถ้าหากวันหนึ่งคุณกลัวที่จะรัก คุณกลัวที่จะรู้จักคำว่ารัก อย่าหวังเลยว่าคุณจะได้รับความรักจากคนอื่น ในเมื่อคุณเองยังกลัวที่จะรัก แล้วใครกันจะมารักคุณ” เสียงหวานๆของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังอ่านบทความที่ชนะการประกวดของเธออยู่บนเวที
“หากคุณรักแต่คุณกลัวที่จะเอ่ยมันออกมา มันคงเป็นสิ่งที่ทรมานใจยิ่งกว่าการที่คุณกลัวที่จะรักเสียอีก การเอ่ยคำว่ารักอาจจะยากแต่เมื่อเอ่ยมันออกมาแล้วคุณก็จะมีความสุขกับมัน สุขที่ได้อยู่เคียงข้างคนที่คุณรักหรือสุขที่คุณได้พูดมันออกไปถึงแม้คุณจะปฏิเสธ แต่มันก็สุขใจที่คุณจะไม่ต้องแอบรักเขาข้างเดียวอีกแล้ว ต่อจากนี้คือเวลาที่คุณจะต้องตัดใจ”
“นิยามของการบอกรักมันคงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก แต่สำหรับฉันแล้วการบอกรักคือจุดจบของความสัมพันธ์ หากคุณได้เอ่ยมันออกไปถ้าโชคดีหน่อยคุณก็คงจะได้คบกับเขาเป็นคนรักและนั่นก็คือจุดจบของความเป็นเพื่อน แต่ถ้าหากโชคร้ายขึ้นมามันก็คือจุดจบของความเป็นเพื่อนเหมือนกัน ต่างกันที่ว่ามันแปรเปลี่ยนไปเป็นคนรู้จักหรือบางคนอาจจะไม่รู้จักกันเลยก็เป็นไปได้ แต่บางรายก็อาจจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมและนั่นแหละคือจุดบอดของนิยามคำว่าการบอกรักของฉัน”
“การที่คุณบอกรักเขาและกลายเป็นคนไม่รู้จักกันไปถึงมันจะเสียใจแต่มันก็เป็นการเสียใจครั้งเดียวแล้วคุณก็ตัดใจทิ้งเสีย แต่ถ้าหากคุณยังไม่บอกเขาแอบมองเขาอยู่ห่างๆและคุณก็เสียใจกับการที่เขาไปอยู่กับคนอื่น มันคงเป็นการเสียใจหลายครั้งแน่นอน”
“เรื่องการบอกรักมันเป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ มันอยู่ที่ใจของคุณ อยู่ที่ว่าคุณอยากจะเจ็บแบบไหน เจ็บมากเจ็บน้อยเจ็บนานหรือเจ็บแปบเดียว เรื่องแบบนี้คุณคงต้องคอยให้หัวใจของคุณเป็นคนสั่ง แต่คุณควรคิดให้ดีว่าเมื่อถึงวันที่หัวใจของคุณสั่งให้ทำ
.วันนั้นมันจะเป็นวันที่สายเกินไปสำหรับคุณหรือเปล่า ขอบคุณค่ะ”
เสียงปรบมือดังกระหึ่มทันทีเมื่อเธอพูดจบ ร่างบางยกมือไหว้ขอบคุณทุกคน เธอหันไปมองข้างเวทีมีหญิงสาวในชุดนักศึกษาคนหนึ่งเดินถือช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ขึ้นเวทีและตรงมาหาเธอ
“ยินดีด้วยนะนิล” เสียงคุ้นๆทำให้เธอยิ้มกว้าง เธอรับดอกไม้มาจากเธอคนนั้นและทักทันที “พี่เอแต่งชุดนี้แล้วน่ารักจังนะคะ” ร่างสูงไว้ผมยาวไปถึงกลางหลังและย้อมให้เป็นสีน้ำตาลแดง ชุดนักศึกษาที่พอดีตัวเสริมให้ร่างสูงหุ่นดีสุดๆ “ขอบใจจ๊ะ” เอขยี้หัวเธอก่อนเดินจากเวทีไป
เธอมองตามเอไปก่อนที่จะเห็นเธอหยุดคุยกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ทั้งคู่คุยกันแปบหนึ่งก็หันมาทางเธอ มือของทั้งสองกุมกันอยู่อย่างแนบแน่น “ในที่สุดพี่เอก็พบคนที่พี่เอต้องการแล้วสินะ”
หลังจากที่ทำการถ่ายรูปจนเสร็จ นิลก็เดินถือรางวัลพร้อมช่อดอกไม้ออกจากห้องประชุมไป “นิล” เสียงเรียกเบาๆทำให้เธอหันไป ร่างสูงกำลังยืนมองเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ยินดีด้วยนะ” น้ำพูด “อือ” นิลยิ้มกว้างก่อนยื่นมือเธอไปให้เขาจับ
ทั้งสองเดินจูงมือกันไปตามถนน แสงแดดจางๆที่ส่องมาที่เธอราวกับจะเป็นกำลังใจให้เธอและเขาสู้ต่อไปไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรอีกก็ตาม
ผลงานอื่นๆ ของ Ka'kujo ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Ka'kujo
ความคิดเห็น